ถ้าแปลตามตัวในภาษาฝรั่งเศสคำว่าเรเนสซองส์ (Renaissance) แปลว่าการเกิดใหม่ ซึ่งในที่นี้หมายถึงการเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ของศิลปะและวิทยาการแขนงต่างๆของยุคคลาสสิคหรือยุคกรีกและโรมันนั่นเอง หลังจากถูกครอบงำทางความคิดด้วยอำนาจ
ของศาสนจักรมาเป็นเวลานานในช่วงยุคกลาง ชาวยุโรปเริ่มหันมาแสวงหาความรู้ด้านต่างๆโดยยึดเหตุและผลเป็นหลัก
ไม่ใช่การกระทำเพื่ออุทิศให้แก่พระเจ้าเพียงอย่างเดียว ผู้คนหันกลับไปสนใจและเห็นคุณค่าของศิลปะและวิทยาการต่างๆ
ของกรีกและโรมันอีกครั้ง โดยมีจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่อิตาลี กลุ่มข้าราชการชั้นสูงและผู้มีฐานะก็ให้ความสนับสนุน
อุปถัมภ์การสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะสมาชิกในตระกูลเมดิชิ (Medici) ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม
ให้ศิลปินหลายคนได้สร้างผลงานชิ้นเอกขึ้นมา
ของศิลปะและวิทยาการแขนงต่างๆของยุคคลาสสิคหรือยุคกรีกและโรมันนั่นเอง หลังจากถูกครอบงำทางความคิดด้วยอำนาจ
ของศาสนจักรมาเป็นเวลานานในช่วงยุคกลาง ชาวยุโรปเริ่มหันมาแสวงหาความรู้ด้านต่างๆโดยยึดเหตุและผลเป็นหลัก
ไม่ใช่การกระทำเพื่ออุทิศให้แก่พระเจ้าเพียงอย่างเดียว ผู้คนหันกลับไปสนใจและเห็นคุณค่าของศิลปะและวิทยาการต่างๆ
ของกรีกและโรมันอีกครั้ง โดยมีจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่อิตาลี กลุ่มข้าราชการชั้นสูงและผู้มีฐานะก็ให้ความสนับสนุน
อุปถัมภ์การสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะสมาชิกในตระกูลเมดิชิ (Medici) ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม
ให้ศิลปินหลายคนได้สร้างผลงานชิ้นเอกขึ้นมา
เมื่อผู้คนเริ่มหันมาแสวงหาความสุขในความเป็นมนุษย์ กลุ่มชนชั้นสูงจึงเริ่มนำแนวคิดการสร้างบ้านพักตากอากาศนอกเมืองกลับมาใช้อีกครั้ง
วิลล่ายุคนี้นิยมสร้างบนเขาเพื่อให้ได้ทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตา สวนยังคงถูกล้อมอยู่ในกำแพง แต่ด้วยความต่างระดับของผืนดิน
ทำให้สามารถชื่นชมธรรมชาติของพื้นที่โดยรอบได้ไกลเกินแนวเขตที่ดินออกไป ลักษณะสวนยังเน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิต
การสร้างแนวแกนสมมาตรเป็นสวนแบบทางการ ศิลปะไม้ตัดแต่งถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เน้นการใช้พรรณไม้ที่ไม่ผลัดใบ
เช่น ไม้จำพวกสน เป็นต้น งานประติมากรรมคลาสสิคของโรมันถูกนำมาวางประดับประดาสวนจนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ที่ขาดหายไปไม่ได้ แม้ในเวลาต่อมางานของโรมันแท้ๆจะมีไม่เพียงพอก็มีการสร้างงานเลียนแบบขึ้นมาใช้
การตัดแต่งต้นไม้ให้เป็นเขาวงกตก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่นิยมในสมัยนี้เช่นกัน
วิลล่ายุคนี้นิยมสร้างบนเขาเพื่อให้ได้ทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตา สวนยังคงถูกล้อมอยู่ในกำแพง แต่ด้วยความต่างระดับของผืนดิน
ทำให้สามารถชื่นชมธรรมชาติของพื้นที่โดยรอบได้ไกลเกินแนวเขตที่ดินออกไป ลักษณะสวนยังเน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิต
การสร้างแนวแกนสมมาตรเป็นสวนแบบทางการ ศิลปะไม้ตัดแต่งถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เน้นการใช้พรรณไม้ที่ไม่ผลัดใบ
เช่น ไม้จำพวกสน เป็นต้น งานประติมากรรมคลาสสิคของโรมันถูกนำมาวางประดับประดาสวนจนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ที่ขาดหายไปไม่ได้ แม้ในเวลาต่อมางานของโรมันแท้ๆจะมีไม่เพียงพอก็มีการสร้างงานเลียนแบบขึ้นมาใช้
การตัดแต่งต้นไม้ให้เป็นเขาวงกตก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่นิยมในสมัยนี้เช่นกัน
เมื่อศิลปินนักจัดสวนได้พัฒนาความคิดขึ้นเรื่อยๆจินตนาการที่ยึดถือในเหตุและผลเป็นหลัก ก็เริ่มขยายขอบเขตออกไปเหนือจริง
มากขึ้นจนเข้าสู่ยุคของสวนบาโรค (Baroque) ยุคนี้สวนอิตาลีเองจะเห็นความหลากหลายและลูกเล่นในการใช้น้ำรูปแบบต่างๆ
งานประติมากรรม และการใช้หินประดับสวน เน้นการสร้างรายละเอียดและการแสดงออกทางอารมณ์ที่มากเกินปกติ
ทำให้ผู้พบเห็นเกิดอารมณ์ร่วมได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง รูปแบบสวนอิตาลีแผ่อิทธิพลไปสู่ประเทศอื่นๆทั่วทั้งยุโรป
และเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสวนฝรั่งเศสอันยิ่งใหญ่ในศตวรรษต่อมา
มากขึ้นจนเข้าสู่ยุคของสวนบาโรค (Baroque) ยุคนี้สวนอิตาลีเองจะเห็นความหลากหลายและลูกเล่นในการใช้น้ำรูปแบบต่างๆ
งานประติมากรรม และการใช้หินประดับสวน เน้นการสร้างรายละเอียดและการแสดงออกทางอารมณ์ที่มากเกินปกติ
ทำให้ผู้พบเห็นเกิดอารมณ์ร่วมได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง รูปแบบสวนอิตาลีแผ่อิทธิพลไปสู่ประเทศอื่นๆทั่วทั้งยุโรป
และเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสวนฝรั่งเศสอันยิ่งใหญ่ในศตวรรษต่อมา
สวนในวิลล่า เดสเต้ แห่งทิโวลี (Villa d'Este at Tivoli) และ วิลล่า ลานเต้ แห่ง บากเนีย (Villa Lante at Bagnaia)
เป็นตัวอย่างที่ดีของสวนอิตาลี โดยเฉพาะการสร้างงานศิลปะจากหิน และการดึงประโยชน์จากพลังของน้ำเพื่อสร้างลูกเล่นต่างๆ
ทำให้เกิดความตื่นตาและประทับใจแก่ผู้พบเห็น
เป็นตัวอย่างที่ดีของสวนอิตาลี โดยเฉพาะการสร้างงานศิลปะจากหิน และการดึงประโยชน์จากพลังของน้ำเพื่อสร้างลูกเล่นต่างๆ
ทำให้เกิดความตื่นตาและประทับใจแก่ผู้พบเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น