ลักษณะพื้นฐานของสวนเปอร์เซีย ถูกสร้างให้เป็นแบบจำลองของระบบจักรวาล (Cosmos) ตามความเชื่อเก่าแก่ สวนมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมและถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนด้วยสายน้ำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแม่น้ำแห่งสวรรค์ ตรงกลางซึ่งเป็นจุดตัดของสายน้ำเป็นที่ตั้งของน้ำพุแห่งชีวิต ชาวเปอร์เซียให้ความสำคัญกับบรรยากาศและความมีชีวิตชีวาในสวนเป็นอันมาก เน้นการสร้างร่มเงาจากไม้นานาพรรณ เติมสีสันและกลิ่นหอมด้วยผลไม้ ดอกไม้ เช่น ส้ม ทับทิม และกุหลาบ รวมถึงความสง่างามของปาล์มชนิดต่างๆ เสียงของน้ำที่ไหลรินๆและนกน้อยในกรง ผสานกับปลาหลากสีที่ว่ายวนไปมาล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้สวนกลายเป็นสวรรค์บนดินที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เปี่ยมไปด้วยความงามทั้งรูป รส กลิ่น และเสียงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 กลุ่มชาวอาหรับผู้ใช้ชีวิตรอนแรมอยู่ในทะเลทรายเพื่อเผยแผ่ศาสนาอิสลามเดินทางมาถึงอาณาจักรเปอร์เซีย และพบว่าสวนเปอร์เซียนี้ช่างตรงกับลักษณะของสวรรค์ที่บรรยายไว้ในคัมภีร์โกราน (Koran)"สถานที่ที่เต็มไปด้วยร่มเงาอันอุดมไปด้วยผลไม้ ทับทิม และปาล์มนานาชนิด พร้อมกับน้ำพุที่ไหลริน"ผนวกกับภาพสวนที่แสนจะน่าอภิรมย์ราวสรวงสวรรค์ ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับทะเลทรายอันแห้งแล้งและร้อนระอุ ทำให้ชาวอิสลามรับรูปแบบสวนเปอร์เซียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นสวนในบ้าน ในวัง หรือในสุเหร่า จะคงลักษณะพื้นฐานเดียวกันไว้คือ สวนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ถูกล้อมไว้ด้วยอาคารหรือกำแพง แบ่งพื้นที่เป็นสี่ส่วนเรียกว่า "ชาฮา-บัก" (Chahar Bagh) ตรงกลางเป็นที่ตั้งของน้ำพุหรือบ่อน้ำ สวนอิสลามเน้นความสำคัญของ "น้ำ"
ของขวัญจากสวรรค์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิตในคริสต์ศตวรรษที่ 8 สวนกลายเป็นองค์ประกอบที่ฝังรากลึก ลงในวัฒนธรรมอิสลาม และแผ่อิทธิพลขยายเข้าสู่สวนในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป พร้อมๆไปกับการเดินทางเผยแผ่ศาสนา ของสาวกแห่งท่านศาสดาโมฮัมเม็ด
ของขวัญจากสวรรค์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิตในคริสต์ศตวรรษที่ 8 สวนกลายเป็นองค์ประกอบที่ฝังรากลึก ลงในวัฒนธรรมอิสลาม และแผ่อิทธิพลขยายเข้าสู่สวนในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป พร้อมๆไปกับการเดินทางเผยแผ่ศาสนา ของสาวกแห่งท่านศาสดาโมฮัมเม็ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น